วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดอยหลวงเชียงดาว


อยหลวงเชียงดาวยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย



ดอยเชียงดาว มี ลักษณะเป็นเทือกเขา ซึ่งเทือกเขาเหล่านี้ประกอบไปด้วยยอดเขาสูงหลายยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดเรียกว่าดอยหลวงเชียงดาว มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,220 เมตรครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลเมืองงาย ตำบลเมืองคลง ตำบลเชียงดาวและตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

มีพื้นที่ประมาณ 521 ตารางกิโลเมตรหรือ 325,625 ไร่ ละติจูดที่ 19^ 21ถึง 19^ 27 เหนือ และลองติจูดที่ 98^ 50 ถึง 98^ 58 ตะวันออก

ดอยหลวงเชียงดาว สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร รองจากดอยอินทนนท์ 2,565 เมตร และดอยผ้าห่มปก 2,285 เมตร และยังเป็นเทือกเขาหินปูนที่มีความสูงมากที่สุดในไทย ดอยหลวงเชียงดาว ได้รับการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2521

ในสมัยโบราณดอยเชียงดาวถูกเรียกว่า ดอยอ่างสลุง ซึ่ง ชาวเชียงใหม่เชื่อกันตามตำนานเมืองเชียงใหม่ว่าเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จมาพร้อมพระอรหันต์ 8 องค์ทรงลงสรงน้ำในสลุงทองคำหรือบริเวณอ่างสลุงนั่นเอง บางคนเรียกดอยแห่งนี้ว่า ดอยหลวง เนื่องจากเป็นดอยที่มีขนาดสูงใหญ่ (หลวง หมายความว่า ใหญ่ ” ) เพี้ยนเป็น ดอยหลวงเพียงดาว จนกระทั่งกลายมาเป็น ดอยหลวงเชียงดาว หรือ ดอยเชียงดาว ในปัจจุบัน

ดอยหลวงเชียงดาว ประกอบด้วยยอดเขาสำคัญ คือยอดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาว สูงจากระดับน้ำทะเล 2,225 เมตร และยังมียอดเขาอีกหลายยอดที่มีความสูงโดดเด่น สามารถชมทิวทัศน์ได้แตกต่างกันออกไป เช่น ดอยกิ่วลมสูงจากระดับน้ำทะเล 2,140 เมตร และดอยเหนือหรือดอยพีระมิดสูงจากระดับน้ำทะเล 2,175 เมตร ดอยหนอกสูงจากระดับน้ำทะเล 2,000 เมตร และดอยสามพี่น้องสูงจากระดับน้ำทะเล 2,150 เมตร

ยอดเขาลูกต่างๆ ที่อนุญาตให้ขึ้นไปท่องเที่ยวทั้งหมด 3 ยอดด้วยกัน คือ ยอดดอยสามพี่น้อง ยอดดอยกิ่วลม และยอดดอยสูงสุด

ดอยหลวงเชียงดาวเป็นภูเขาหินปูนล้วนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัย เป็นภูเขาหินปูนที่เกิดขึ้นในยุคเพอร์เมียน (Permian) มีอายุระหว่าง 230-250 ล้านปี เป็นหมู่หินราชบุรีของไทย ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนทะเล และซากสัตว์ที่มีหินปูน สันนิษฐานว่า พื้นที่ในบริเวณนี้ในอดีต เคยเป็นท้องทะเลมาก่อนที่การตกตะกอนทับถมของซากสิ่งมีชีวิต เช่น ปะการังและหอย

บนยอดดอยหลวงเชียงดาวอากาศค่อนข้างหนาว เพราะว่ามีลมพัดตลอด เมื่อยืนอยู่บนยอดดอยจะเห็นวิว 360 องศา มองไปด้านหน้าก็เป็นมุมพระอาทิตย์ขึ้น มองไปด้านหลังก็เห็นดอยสามพี่น้องและดอยปิรามิดยืนโดดเด่นอยู่ท่ามกลางทะเล หมอกสีขาวนวลตา เมื่อมองลงมายังเบื้องล่างจะเห็นเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้ามองมาทางด้านตะวันออก จะมองเห็นเป็นพื้นราบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองงาย บนยอดดอยหลวงเชียงดาวจึงเหมาะที่จะเป็นที่ชมวิว เพราะไม่มีอะไรมาบดบังสายตา เราสามารถที่จะเห็นยอดเขาทุกลูก ณ จุดนี้ และบนยอดดอยแห่งนี้ก็เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตก

ดอยเชียงดาวเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว พื้นที่ต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์และสำคัญของแม่น้ำปิง เป็นแหล่งรวมพันธุ์พฤกษชาติจำนวนมากที่หายาก (rare species ) และพืชถิ่นเดียว (endemic species)โดยเฉพาะบริเวณสันเขาและยอดดอยที่ระดับความสูงเกินกว่า 1,900 เมตร มีสภาพพืชพรรณไม้กึ่งอัลไพน์ (sub-alpine ) ที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย พรรณ ไม้เหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในกลางฤดูฝน จนถึงต้นฤดูหนาว ตัวอย่างพรรณพืชหายากที่พบบนดอยเชียงดาว สังเกตได้จากชื่อที่ตั้งไว้ให้รู้เลยว่าเป็นพืชเฉพาะถิ่นที่นี่เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ค้อเชียงดาว ( Trachycarpus oreophilus ) , สิงโตเชียงดาว ( Bulbophyllum albibracteum ), สิงโตขนตาขาว( B.comosum ), สิงโตตาแดง ( B. muscarirubrum ), สิงโตเล็บเหยี่ยว( B. wendlandianum ),อั้วปากฝอยเชียงดาว( Habenaria limprichtii ), งูเขียวปากม่วง( Luisia thailandica ),รองเท้านารีเมืองกาญจน์ ( Paphiopedilum parishii ), เอื้องนางเทียน( Papilionanthe biswasiana ) นอกจากนั้นยังมีพรรณไม้ที่โดดเด่นทั้งสวย ทั้งแปลก และมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอยู่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทียนนกแก้ว ( Impatiens psittacina ) ที่ให้ดอกเป็นรูปร่างเหมือนนกแก้ว, ค้อเชียงดาวหรือปาล์มรักเมฆ ที่สามารถขึ้นได้ในสภาพหินปูนและยืนต้นท้าแรงลมอยู่ตามไหล่เขาได้อย่างน่าอัศจรรย์, เหยื่อจงหรือเทียนหมอคา ซึ่งเป็นเทียนที่ใหญ่ที่สุด, ชมพู พิมพ์ใจ ที่มีกลิ่นหอมชวนให้ดมดอมเสียเหลือเกิน หรือแม้แต่กุหลาบเลื้อยเชียงดาวหรือศรีจันทรา ที่เค้าว่าสวยงามยิ่งนักยามที่มันต้องแสงจันทร์ในเวลาค่ำคืน

ดอย เชียงดาวยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์เช่น ผีเสื้อสมิงเชียงดาว ไก่ฟ้าหางลายขวาง กวางผา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าม้าเทวดาและเลียงผาเป็นต้น

ที่พัก


บนยอดดอยหลวงเชียงดาว มีเพียงแห่งเดียวที่อนุญาตให้นอน คือ บริเวณอ่างสลุง และดอยกิ่วลมซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมตั้งแคมป์ แต่ถ้าเดินไม่ถึงยังมีจุดค้างแรมอีกแห่งหนึ่ง คือบริเวณคงท้อ อยู่เลยจากหน่วยเด่นหญ้าขัดไม่ไกลนัก

การเดินทาง
ดอยเชียงดาวอยู่ทางเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ไปทางอำเภอเชียงดาว

โดยรถยนต์
ใช้ เส้นทางหลวงหมายเลข 107 ระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร ถึงทางแยกไปบ้านถ้ำ (เชียงดาว) บริเวณตัวอำเภอเชียงดาว เข้าสู่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ขับรถเข้าป่า ไปเด่นหญ้าขัดประมาณ2 ช.ม. ระยะทางประมาณ 20 กม. ถึงจุดเริ่มเดินการเดินเท้าที่หน่วยฯ เด่นหญ้าขัด

โดยรถประจำทาง
จากจังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งช้างเผือกสายเชียงใหม่-เชียงดาว มาลงที่ปากทางเข้าตำบลแม่นะ เช่ารถยนต์ไปส่งหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก ราคาประมาณเที่ยวละ 700 บาท บริเวณนี้ยังใช้เป็นจุดพักแรมและเป็นแหล่งหากินของไก่ฟ้าหางลายขวาง

เส้นทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวมี 3 เส้นทาง คือ

    เส้นทางบ้านถ้ำ เป็นเส้นทางชัน โหดที่สุด ไม่เหมาะแก่การขึ้น ส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางนี้ในการลง
    เส้นทางเด่นหญ้าขัด ต.แม่นะ อ.เชียงดาว เดินสบายที่สุด แต่ต้องเช่ารถขึ้นไปส่งค่อนข้างไกล (ค่ารถที่จะไปส่งตรงทางขึ้นดอยที่เด่นหญ้าขัด 1,000 บาท) เป็นเส้นทางที่นิยมใช้มากที่สุด ถือเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุดจากจุดเริ่มต้นขึ้นไปถึงยอดดอย การเดินเท้าจากหน่วยฯ เด่นหญ้าขัด ระหว่างทางจะมีทั้งพันธุ์ไม้ทั่วไป และพันธุ์ไม้หายาก จากระดับที่สูงขึ้นและสูงขึ้น ไต่ไปตามทางที่ทั้งลื่นและแคบ บางช่วงก็กว้างพอที่จะเดินแบบเกาะกลุ่มกันได้ บางช่วงก็แคบชนิดที่ต้องเดินเรียงเดี่ยวเท่านั้น
    เส้นทางนาเลา ค่อนข้างจะรก สามารถควบคุมเวลาการเดินทางได้แน่นอนเส้นทางเด่นหญ้าขัดและเส้นทางนาเลา ใช้เวลาเดินทางใกล้เคียงกัน คือ ประมาณ 4-6 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพร่างกาย

การเดินทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาว

    ที่นี่จำกัดคนเดินทางขึ้นสู่ยอดจึงควรติดต่อแต่เนิ่นๆ รับได้ไม่เกิน 200 คน ช่วงที่เปิดขึ้นชมคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์เท่านั้น
    ต้องได้รับอนุญาตจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว โดยไปขออนุญาตได้ที่ทำการเขตโดยตรง อยู่เลยจากถ้ำเชียงดาว อ.เชียงดาว ไม่ไกลนัก โทรศัพท์ 05-326 -1466
    ต้องมีคนนำทางหรือเจ้าหน้าที่ร่วมเดินทางไปด้วย อัตราค่าจ้างคนนำทางวันละ 400 บาท (คนนำทางจะไม่แบกสัมภาระเลย มีหน้าที่แค่นำทาง) ค่าลูกหาบวันละ 300 บาท/ลูกหาบ 1 คน
    การเหมารถยนต์หรือจ้างลูกหาบซึ่งมีบริการบริเวณร้านค้าหน้าถ้ำเชียงดาว หรือติดต่อทางไปรษณีย์ได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ตู้ ปณ. 12 อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 50170
    ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน

    ระดับ ความสูงของยอดดอย ทำให้สภาพอากาศเบาบาง หายใจลำบาก จึงควรฟิตซ้อมสภาพร่างกายในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องความหนาวเย็น
    บนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรให้เราเลย เราจึงต้องเตรียมสัมภาระ ขึ้นไป เช่น เต็นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว ผ้าห่ม ไฟฉาย ไฟแช็ค เทียนไขกระดาษทิชชู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ถุงมือ ถุงเท้า หมวก เสื้อกันฝน
    บนยอดดอยหลวงเชียงดาวไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำกินและน้ำใช้ทั้งหมดจะต้องจ้างลูกหาบเพื่อแบกเข้าไป ฉะนั้นควรใช้น้ำอย่างประหยัด (ลูกหาบ 1คนแบกน้ำอย่างเดียว คนละ ประมาณ 20 ลิตรเท่านั้น)
    อาหาร และน้ำดื่ม จะเตรียมไปเองก็ได้ หรือสามารถไปซื้อที่ตลาดเชียงดาว
    ยาควรจะเตรียมยาที่จำเป็นไป เช่น ยาแก้ปวดหัว, ปวดท้อง, ยาแก้คัน, พลาสเตอร์ยา, และยาสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว

อุทยานแห่งชาติเชียงดาว ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 50170 โทรศัพท์ 0 -5326 -1466 E-mail reserve@dnp.go.th

ขอบคุณภาพสวยๆประกอบเรื่องราว จากคุณ debby
ที่มาhttp://www.folktravel.com/archive/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น